คาเฟ่เขาใหญ่ สุนัขเข้าได้ อยู่บ้านเบื่อ ๆ แบบนี้หากได้ไปทานอาหารพร้อมกับสัตว์เลี้ยงแสนรักก็คงจะดีไม่น้อย แต่ร้านคาเฟ่ที่อนุญาตให้สุนัขเข้าไปได้นั้นก็มีน้อยนิด ยิ่งอยู่ในตัวเมืองกรุงเทพด้วยแล้ว ก็ยิ่งหาร้านยากเข้าไปอีก แต่ปัญหา
เหล่านั้นจะหมดไปถ้าหากเราสัตว์เลี้ยงแสนรักไปเที่ยว คาเฟ่เขาใหญ่ สุนัขเข้าได้ กันดูสักครั้ง บอกเลยว่าแต่ละที่คือบรรยากาศดีงามมาก ๆ แถมบางร้านยังมีอาหารให้กับสัตว์เลี้ยงแสนรักของคุณด้วย ว่าแต่จะมีที่ไหนน่าสนใจบ้าง เรา
ตามไปดูกันเลยค่ะ
ชวนเที่ยว คาเฟ่เขาใหญ่ สุนัขเข้าได้ ปี 2022
1. Please Don’t Tell Khaoyai
เริ่มแรกเราจะพาทุกคนไปเที่ยวกันที่ Please Don’t Tell Khaoyai เป็นคาเฟ่เขาใหญ่ สุนัขเข้าได้ ที่ตั้งอยู่ท่ามกลางหุบเขาเขียวชอุ่ม บริเวณภายนอกร้านมีพื้นที่กว้างขวาง เหมาะแก่การพาสุนัข และน้องแมวคู่ใจของคุณมาวิ่ง
เล่นสุด ๆ ส่วนสไตล์การตกแต่งร้านนี้จะมี ความเท่ที่แฝงไว้ด้วยความคลาสสิก ทั้งยังมีมุมถ่ายรูปอีกหลากหลายมุมเลย แต่มุมที่เป็นไฮไลท์ประจำร้านเลยนั่นก็คือ บริเวณระเบียงด้านนอก บอกเลยว่าถ่ายออกมาแล้วปังมาก ๆ ส่วนเรื่องอาหาร
เบเกอรี่และเครื่องดื่มของที่ร้านก็มีให้เลือกสรรกันแบบจัดเต็ม ซึ่งไม่ว่าจะนั่งในร้านหรือนอกร้าน คาเฟ่แห่งนี้ก็พร้อมต้อนรับสัตว์เลี้ยงแสนรักของคุณเช่นกันค่ะ
2. Pirom Café
หากใครอยากใกล้ชิดกับธรรมชาติมากยิ่งขึ้น เราขอเสนอคาเฟ่แห่งนี้เลยค่ะ เพราะบรรยากาศโดยรอบของตัวร้านนั้นค่อนข้างมีความอุดมสมบูรณ์ ทั้งยังมีต้นไม้นานาพันธุ์ปลูกอยู่รอบตัวร้าน สำหรับใครที่อยากมานั่งชิล ๆ พร้อมกับรับลมเย็น ๆ และสูดอากศบริสุทธิ์ก็สามารถเลือกนั่งข้างนอกร้านได้เลยค่ะ เพราะเมื่อตกดึก ที่ร้านจะมีการเล่นดนตรีสดให้เราฟังด้วย ยิ่งถ้าใครหมากับน้องหมาหรือน้องแมวด้วยแล้ว บริเวณด้านนอกร้าน ก็ถือเป็นสนามวิ่งเล่นที่สัตว์เลี้ยงของคุณต้องชื่นชอบแน่นอน แต่ถ้าใครไม่ชอบนั่งอยู่ในที่ร้อน ก็สามารถนั่งในร้านพร้อมกับตากแอร์เย็นฉ่ำได้ตามใจชอบเลย ส่วนเมนูอาหารของที่ร้านก็มีหลากหลายสไตล์ให้เลือก ไม่ว่าจะเป็นอาหารไทย หรืออาหารตะวันตก ก็รสชาติดีไม่แพ้กัน นอกจากนี้ที่ร้านยังมีเมนูเครื่องดื่มและแอลกอฮอล์จำหน่ายให้ด้วยนะ เรียกว่าเป็นร้านคาเฟ่เขาใหญ่ อีกหนึ่งร้าน ที่สายนั่งชิวไม่ควรพลาดจริง ๆ ค่ะ
3. The Mew KhaoYai
หากให้พูดถึงร้านคาเฟ่ที่พร้อมต้อนรับสัตว์เลี้ยงสักแห่ง เชื่อว่าต้องมีคนนึกถึง The Mew KhaoYai กันแน่นอน เพราะบริเวณด้านนอกร้านนั้นมีสนามหญ้าที่กว้างขวางมาก ๆ เหมาะแก่การพาสุนัขมาวิ่งเล่น ส่วนคาเฟ่ของที่นี่จะตกแต่งสไตล์มินิมอล เน้นคุมโทนร้านด้วยไม้สีอ่อน และมีการประดับต้นไม้ใบเขียวไว้ตามมุมต่าง ๆ ช่วยให้บรรยากาศภายในร้านมีความร่มรื่นและสดชื่นมากยิ่งขึ้น สำหรับเมนูของกินของที่นี่ก็มีทั้ง อาหาร เบเกอรี่ และเครื่องดื่มมากมาย แต่ขอแนะนำว่าควรมาช่วงบ่ายจะดีที่สุด เพราะที่ร้านจะเปิดถึงหกโมงเย็นเท่านั้น หากใครมีเวลาว่าง ๆ ต้องลองแวะมาที่ร้านแห่งนี้กันดูนะคะ รับรองเลยว่าบรรยากาศดีต่อใจจริง ๆ
4. Where We Met KhaoYai
ต่อมาจะเป็นคาเฟ่ Where We Met KhaoYai บรรยากาศภายนอกร้านจะตั้งอยู่ท่ามกลางธรรมชาติเขียวขจี และยังมีมุมนั่งเล่นกลางสวนเตรียมไว้ให้ลูกค้า และสัตว์เลี้ยงแสนรักโดยเฉพาะ ส่วนบรรยากาศในร้านจะเป็นแบบคอทเทจน่ารัก ถึงแม้จะนั่งอยู่ในร้านแต่ก็สามารถมองเห็นบรรยากาศภายนอกได้ชัดเจน ซึ่งโซนอินดอร์นั้นจะมีให้เลือกนั่งถึง 2 ชั้นด้วยกัน โดยโซนล่างจะเป็นห้องขนาดเล็กที่เปิดแอร์เย็นฉ่ำถึงใจ ส่วนชั้นบนจะมีขนาดกว้างขวางแต่จะเป็นห้องแบบโอเพ่นแอร์รับลมจากธรรมชาติ หรือถ้าใครไม่อยากนั่งชั้นบน ก็สามารถเลือกนั่งข้างนอกร้านได้เช่นกัน ซึ่งข้างนอกร้านก็มีมุมนั่งให้เลือกทั้งบ้านคอจเทจ และมุมนั่งชิวที่ประดับตกแต่งด้วยต้นไม้นานาพันธุ์ ในส่วนของเมนูอาหารของที่ร้านจะมีให้เลือกไม่ค่อยเยอะมากนัก เช่น สปาเก็ตตี้ ข้าวปลาซาบะ ข้าวซี่โครงหมู่ เป็นต้น ส่วนเรื่องเมนูเครื่องดื่มบอกเลยว่าไม่ธรรมดา เพราะที่นี่ขึ้นชื่อเรื่อง ชา เป็นอย่างมาก เมื่อดื่มแล้วจะได้กลิ่นหอมจากใบชาแบบเต็มรส แต่ถ้าใครไม่ชอบทานชาก็สามารถเลือกทานเมนูเครื่องดื่มอื่น ๆ แทนได้ เรียกว่าเป็นร้านคาเฟ่ที่มีความทันสมัย แต่ยังคงความเป็นธรรมชาติได้อย่างสมบูรณ์แบบจริง ๆ
5. Toplofty Café
Toplofty Café เป็นร้านคาเฟ่สไตล์ลอฟต์อีกหนึ่งแห่ง ที่มีการตกแต่งต้นไม้ และ ดอกไม้ไว้ล้อมรอบตัวร้านได้สวยงามเป็นอย่างมาก รวมถึงบรรยากาศภายในคาเฟ่ก็มีการประดับกระถางต้นไม้อยู่ทั่วทั้งตัวร้าน ทำให้เรารู้สึกเหมือนได้นั่งอยู่กลางธรรมชาติจริง ๆ ยิ่งถ้าใครพาสัตว์เลี้ยงมาเที่ยวที่นี่ดูแล้ว ภายในร้านก็มีอาหารน้องหมาขายให้ด้วยเช่นกัน แต่สิ่งหนึ่งที่รู้สึกประทับใจเลยนั่นก็คือ คุณภาพการบริการของทางร้านที่ให้ความใส่ใจกับลูกค้าเป็นอย่างมาก แถมการออกแบบทางเข้าร้านให้มีทางลาดสำหรับรถเข็นเพื่อรองรับ ผู้สูงอายุ คนพิการ เด็ก และสัตว์เลี้ยงด้วยแล้ว ก็ยิ่งสะท้อนให้เห็นเลยว่าที่ร้านให้ความสำคัญกับลูกค้าเป็นที่หนึ่ง นอกจากการบริการที่ดีแล้ว ในส่วนของคุณภาพอาหารก็ทำออกมาได้กลมกล่อมสมราคามากจริง ๆ หากใครมีโอกาสได้แวะเวียนไปเที่ยวที่ Toplofty Café เราเชื่อว่าคุณจะต้องประทับใจคาเฟ่แห่งนี้กันแน่นอน
จบกันไปแล้วกับ 5 ร้านคาเฟ่เขาใหญ่ สุนัขเข้าได้ ที่เรารวบรวมมาฝากทุกคนกันในวันนี้ เห็นไหมว่าแต่ละร้านที่เราพาไปชมกันนี้ ไม่ได้มีดีเพียงแค่หน้าตาร้านอย่างเดียวเท่านั้น แต่ยังรวมถึงคุณภาพการบริการ และ คุณภาพอาหารด้วย หากใครรู้สึกเบื่อ ๆ และไม่รู้จะไปเที่ยวที่ไหนกันดี คาเฟ่เขาใหญ่ทั้ง 5 แห่งที่เราคัดมาให้กับทุกคนในวันนี้ ก็น่าจะเป็นทางเลือกที่ดีให้กับทุกคนแน่นอน สุดท้ายนี้เราคงต้องขอตัวลากันไปก่อน แล้วในบทความต่อไปเราจะพาทุกคนไปเที่ยวที่ไหนกันอีก ต้องรอติดตามชมนะคะ